สารัญ Creditbank Credit card bank

123

11/12/2552

ด้านมืดของบัตรเครดิต


ด้านมืดของบัตรเครดิต
หลายคนคงจำยังข่าวหนุ่มกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก เมื่อไม่นานนี้ได้ ซึ่งปรากฏตามข่าวว่า เขาฆ่าตัวตายหนีหนี้บัตรเครดิตจำนวนประมาณ 7 หมื่นกว่าบาท แถมด้วยคดีใช้บัตรปลอมกดเงินสดจากตู้ ATM ธนาคารพาณิชย์ใหญ่แห่งหนึ่ง หรือข่าวจากประเทศเกาหลีใต้เมื่อปีที่แล้ว ที่คุณพ่อวัย 60 ปี กลุ้มอกกลุ้มใจเรื่องที่ลูกสาววัย 30 ปี ไม่มีงานทำ

และมีหนี้บัตรเครดิตจำนวน 120,000 ดอลลาร์ จึงเขียนจดหมายระบายความในใจเพื่อลาตายส่งให้ประธานาธิปดี โรห์ มู ฮุน ก่อนที่จะฆ่าตัวตายเพราะไม่สามารถจัดการหนี้ให้ลูกสาวได้ นอกจากนี้ ยังมีชายหนุ่มสองพี่น้องตัดสินใจฆ่าตัวตายพร้อมกัน เพื่อหนีหนี้บัตรเครดิตคนละประมาณ 80,000 ดอลลาร์ ทำไมคนเหล่านี้จึงต้องฆ่าตัวตาย อะไรเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจฆ่าตัวตาย...ถ้าเขาไม่มีบัตรเครดิต เขาเหล่านี้จะฆ่าตัวตายหรือเป็นหนี้ประเภทอื่นจนทำให้ต้องคิดสั้นหรือไม่?

คำว่า “Credit Card” ซึ่งหากจะแปลกันให้ตรงตามคำศัพท์ น่าจะแปลว่า บัตรสินเชื่อ แต่เหตุใดจึงไม่มีใครเรียก บัตรเครดิต ว่า บัตรสินเชื่อ ถ้าหากมีพนักงานขายในร้านค้าถามลูกค้าว่า “ คุณพี่จะชำระเป็นเงินสดหรือใช้บัตรสินเชื่อดีค่ะ?” ลูกค้าอาจจะรู้สึกไม่อยากใช้บัตรสินเชื่อสักเท่าไร ต่างจากคำว่าบัตรเครดิตที่ฟังดูดีมีเครดิต ทั้งที่จะว่าไปแล้วการใช้บัตรเครดิตในแต่ละครั้งก็เท่ากับผู้ใช้สร้างหนี้ให้กับตัวเองอยู่แล้ว แต่ถ้าผู้ใช้สามารถชำระเงินได้ครบถ้วนตามจำนวนที่ถูกเรียกเก็บ หนี้สินประเภทนี้จะเป็นหนี้สินระยะสั้นที่ไม่มีดอกเบี้ยแถมยังมีส่วนลดและสิทธิพิเศษต่างๆ ที่น่าสนใจยิ่ง แต่ไฉนหนี้บัตรเครดิตจึงกลายเป็นหนี้ระยะยาวที่คิดดอกเบี้ยมหาโหดสำหรับหลายคน

การใช้สินเชื่อบัตรเครดิตแตกต่างจากการใช้สินเชื่อประเภทอื่น เพราะความง่าย ความสะดวกสบายในการใช้ เนื่องจากสินเชื่อจากบัตรเครดิตเป็นสินเชื่อแบบ Open-Ended Credit ซึ่งเป็นสินเชื่อประเภทที่อนุมัติวงเงินสินเชื่อให้ล่วงหน้าจำนวนหนึ่ง แล้วไม่สนใจว่าผู้ขอสินเชื่อจะนำเงินไปใช้จ่ายอะไร อย่างไร หรือเมื่อไร แต่จะต้องชำระคืนตามเงื่อนไขที่กำหนด ความสะดวกสบายจึงเริ่มต้นทันทีที่ได้รับบัตรเครดิต คือ ขออนุมัติครั้งเดียว หลังจากนั้น จะซื้อหาอะไร เมื่อไรก็ได้ ด้วยความสะดวกสบายที่ได้รับ ความง่ายในการจับจ่ายใช้สอย ทำให้ซื้อของได้ทันทีที่ต้องการโดยไม่ต้องมีเงินสด ไม่ต้องเดินหาเครื่อง ATM ไม่ต้องรอเบิกเงินจากธนาคาร รวมทั้งไม่ต้องรอเงินเดือนออกตอนสิ้นเดือน ยิ่งง่าย ยิ่งสะดวก ยิ่งเพลิน อย่างล่าสุดมีรถแท็กซี่ที่ผู้โดยสารสามารถจ่ายค่ารถด้วยบัตรเครดิตออกให้บริการแล้ว ไม่ต้องมีเงินสดแต่ไม่ต้องโหนรถเมล์ โดยปกติมนุษย์ชอบความสะดวกสบายและมีความสุขจากการใช้เงินเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หากความเพลิดเพลินเกิดขึ้นนานเข้า การใช้เงินง่ายๆ หาความสุขได้ง่ายๆ ที่สุดจะกลายเป็นความเคยชิน นิสัยในการใช้จ่ายจะเริ่มเปลี่ยน คือจะใช้สินเชื่อเพื่อความสะดวกสบายนี้ด้วยความคุ้นเคย จนเป็นนิสัย จะเริ่มเคยชินกับการซื้อหาสิ่งของแบบไม่ต้องวางแผน เคยชินกับการซื้อทันทีโดยไม่ต้องมีเงินออม เคยชินกับการใช้เงินในอนาคตของตนเอง หากผู้ใช้สินเชื่อประเภทนี้ลืมประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของตนเอง หรือมีความสามารถในการซื้อมากกว่าความสามารถในการจ่ายชำระ ไม่สามารถจ่ายชำระหนี้ได้ทั้งจำนวน ได้แต่ชำระหนี้บางส่วน และใช้สินเชื่อจนเต็มวงเงิน ก็จะเคยชินกับการเป็นหนี้ เคยชินกับการจ่ายชำระหนี้ขั้นต่ำ เคยชินกับการจ่ายดอกเบี้ย ทำให้มีโอกาสเป็นหนี้บัตรเครดิตแบบถาวรได้ รวมทั้ง หนี้สินที่ค้างชำระจะเพิ่มมูลค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว จน Open-Ended Credit อาจจะกลายเป็น Open but Never End Credit ไปก็เป็นได้

อ. อัจฉรา โยมสินธุ์ /จากหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ คอลัมน์ Financial Intelligence ฉบับวันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2548